ในท้องถนน เมื่อเราขับรถยนต์ รถจักรยานยนต์ ลงสู่ท้องถนนแล้วโอกาสที่เราจะเกิดอุบัติเหตุจากการเดินทางย่อมเกิดขึ้นทันที อยู่ที่ว่าเราจะมีสติ เราจะลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุเหล่านั้นได้อย่างไร การมีสติอยู่กับตัวจะสามารถลดความประมาทลงได้ และสติก็จะอยู่ได้เมื่อเมฆการคิดอย่างถี่ถ้วนดีแล้ว เมื่อเราเลือกที่จะตัดสินใจขับรถก่อนสตาร์ท เราจะต้องมีการคิดอย่างรอบคอบ ว่าเราจะขับรถไปไหน เราจะขับด้วยความเร็วสูงสุดเท่าไหร่ เราจะขับปาดหน้าซ้ายขวาหรือไม่ ในกรณีที่รถติดหนัก ถ้าเราขับไปเรื่อยเรื่อยโดยความไม่ประมาทบนท้องถนน ด้วยความเร็วที่ต่ำ มันจะไปทันธุระของเราหรือเปล่า เราต้องเผื่อเวลาไว้ประมาณกี่นาทีหรือเป็นชั่วโมง
การตัดสินใจรอบคอบเหล่านี้ จะช่วยให้เราลดความผิดพลาดลงได้ อย่างกรณีที่ยกตัวอย่างมาคือเมื่อเรารู้ว่าเรามีงานเร่งรีบ เร่งด่วน เราควรจะต้องเผื่อเวลาในการเดินทางเอาไว้ให้เยอะเยอะ เพราะโอกาสรถติดมีเกิดขึ้นอยู่ได้เสมอ หรืออาจเกิดเหตุฉุกเฉินสุดวิสัย เช่น รถดับกลางคัน กว่าช่างจะมาก็อาจจะต้องเราราวซัก 30 นาที ทีนี้ถ้ามันเป็นงานเร่งด่วนแล้วจะทิ้งรถไว้ข้างทาง แล้วบอกรถโดยสารไป มันจะสะดวกไหม นี่คือสิ่งที่เราต้องคิดก่อนที่จะเริ่มเดินทาง
คำนวณเผื่อไว้ตั้งแต่ต้น ไม่มีเสียหาย
ทุกๆอย่าง เราควรจะมีการคำนวณไว้อย่างรอบคอบ เพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาดต่อหน้าที่การงาน ต่อครอบครัว ต่อตัวเราเอง มันจะช่วยให้เรามีชีวิตที่อยู่ในแบบแผน นี่เป็นแค่ตัวอย่างจากเรื่องของการเดินทางบนท้องถนน แท้จริงการคิดด้วยสติอย่างรอบคอบ จะต้องคิดอยู่ในทุกๆเรื่อง ทั้งเรื่องของครอบครัวและการงาน หากเราทำอะไรผลีผลามโดยไม่คิด มันคงไม่ดีแน่ สิ่งที่จะเป็นผลเสียย่อมเกิดตามมาเสมอ เช่นอยู่ๆอารมณ์ร้อนขึ้นแล้วก็ไปเหวี่ยงใส่พ่อแม่ของเรา พอเราอารมณ์เย็นลง การไปขอโทษเขาอาจทำให้เขารู้สึกสบายใจขึ้น แต่ก็คงไม่สามารถลบเลือนสิ่งที่เราได้กระทำไปแล้วได้
ลองปรับใหม่ หากว่าเราคิดก่อนทำด้วยสติ มีความใจเย็น ต่อจังหวะที่เราเกิดอารมณ์ร้อน หงุดหงิด ก็ยังเชื่อว่าโอกาสที่เราจะทำอะไรเกินเหมาะสมนั้นย่อมเป็นเรื่องยากกว่าการไม่คิดตั้งแต่แรก เมื่อเรารู้แบบนี้ก็ควรจะวางแผนชีวิตออกแบบความคิดของเราให้อยู่ในกฎระเบียบที่ตัวเราตั้งขึ้นมาเอง ไม่ใช่ผู้อื่นตั้งขึ้นมา และความผิดพลาดในการใช้ชีวิตทุกเรื่องก็จะลดลง